การทำงานของ Blockchain
- pitchaba.crypto

- Feb 14, 2022
- 1 min read
Updated: Mar 7, 2022
Blockchain ไม่เพียงแต่มีประโยชน์กับวงการ Cryptocurrency เท่านั้น แต่สามารถใช้ร่วมกับทุกวงการและอุตสาหกรรม ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ โรงพยาบาล การศึกษา ค้าปลีก และพลังงาน

Blockchain ถูกนำมาใช้ร่วมกับ Bitcoin เพื่อเก็บข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงิน
และยังถูกนำมาใช้ร่วมกับเหรียญ Cryptocurrency อื่นๆ ประมาณ 10,000 เหรียญด้วย
แต่คุณสมบัติของ Blockchain ไม่ได้มีประโยชน์แค่กับวงการการเงินเท่านั้น แต่ยังสามารถเก็บข้อมูลในรูปแบบอื่นๆได้ด้วยเช่นกัน
ทำให้ Blockchain ถูกนำไปใช้กับอุตสาหกรรมหลายรูปแบบ เช่น ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก โรงพยาบาล การศึกษา และพลังงาน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างของบริษัทที่นำ Blockchain มาใช้งานร่วมกัน คือ Walmart, Pfizer, AIG, Siemens, Unilever, และอีกมากมาย
สำหรับ IBM ใช้ Blockchain บันทึกการเดินทางของรถขนส่งอาหารของเขา เพื่อติดตามการเดินทางของผลิตภัณฑ์อาหารของเขา
Blockchain & Banking (Finance)

สถาบันการเงินจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการทำงานร่วมกับ Blockchain เนื่องจากปกติแล้วธนาคารมีวันและเวลาเปิดทำการที่จำกัด ส่วนใหญ่คือ วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ทำให้บางครั้งก่อนทำธุรกรรมการเงินติดขัดและเชื่องช้า
"หากคุณฝากเช็กวันศุกร์เวลา 18:00 น. คุณอาจต้องรอจนถึงเช้าวันจันทร์จึงจะเห็นเงินเข้าบัญชีของคุณ"
ในทางกลับกัน Blockchain ไม่เคยหลับ ไม่มีวันหยุด มันสามารถทำงานได้ตลอดเวลา หากคุณโอนเงินบน Blockchain ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีธุรกรรมนั้นก็เสร็จสมบูรณ์
สำหรับการโอนเงินซื้อหุ้นผ่านธนาคาร ปกติใช้เวลา 2-3 วัน หากเป็นการซื้อต่างประเทศก็จะใช้เวลานานกว่านั้นอีก นั้นหมายความว่า คุณไม่สามารถเข้าเงินนั้นได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงสำคัญสำหรับธนาคาร
Blockchain & Currency
Blockchain เป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับ Cryptocurrency เช่น Bitcoin
U.S. dollar ถูกควบคุมโดย FED หรือธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา หรือเรียกอีกอย่างว่าเงินที่อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารและรัฐบาลสหรัฐ
หากธนาคารถูกโจมตี ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าจะตกอยู่ในความเสี่ยง
หากรัฐบาลของประเทศนั้นๆ ไม่มีศักยภาพพอที่จะบริหารการเงินและประเทศ จะทำให้ค่าเงินเสื่อมค่าและตกอยู่ในความเสี่ยง เช่น เวเนซุเอลาและตุรกี
เหตุการณ์สำคัญในปี 2008 ที่ธนาคารหลายแห่งบริหารล้มเหลว แต่รัฐบาลก็ช่วยไปช่วยเหลือด้วยเงินของผู้เสียภาษี
ทั้งหมดนี่ จึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นเหตุผลที่ทำให้ Bitcoin ถูกสร้างและพัฒนาขึ้น
Bitcoin มีระบบการประมวลผลแบบไร้ศูนย์กลาง หรือเรียกอีกอย่างว่าไม่มีใครสามารถควบคุมหรือสั่งการได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยง ลดค่าธรรมเนียมและลดระยะเวลากการทำงานอย่างมาก
Blockchain & Healthcare

ผู้ให้บริการด้านสุขภาพสามารถบันทึกข้อมูลของคนไข้ลงบน Blockchain ได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยได้ว่า ข้อมูลไม่สามารถแก้ไขหรือดัดแปลงได้ และสามารถจำกัดการเข้าถึงข้อมูลเพื่อไม่ให้บุคคลนิรนามเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ง่ายๆ
ปัจจุบัน โครงการ Medrec ของทาง MIT นำ Blockchain มาเก็บข้อมูลของผู้ป่วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับลูกค้า
สำหรับเมืองไทย FarmaTrust ใช้ Blockchain เพื่อติดตามและตรวจสอบที่มาของยาแต่ละชนิด เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Blockchain & Property Records

สถานที่ราชการ มักมีกระบวนการทำงานที่เชื่องช้าและไร้ประสิทธิภาพ
หากคุณเคยทำเรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่กรมที่ดินหรือสถานที่ราชการเกี่ยวกับการยืนยันสิทธิในที่ดินของคุณ คุณจะพบว่าการทำงานของมันเชื่องช้าและไร้ประสิทธิภาพมาก
เมื่อคุณซื้อที่ดินและต้องการทำเรื่องโอน คุณต้องไปทำที่สถานที่ราชการ ซึ่งจะเป็นกระบวนการป้อนข้อมูลโดยมนุษย์เข้าสู่ฐานข้อมูลทำให้ในกระบวนการนี้สามารถเกิดความผิดพลาดได้ (Human error)
เมื่อเกิดปัญหาข้อพิพาทขึ้นมา จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะยืนยันความถูกต้องได้ ที่สำคัญกระบวนการนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงและใช้เวลานาน ซึ่งทั้งหมดนี้คือความเสี่ยงในการยืนยันความเป็นเจ้าของของทรัพย์สิน
Blockchain จะเข้ามาช่วยลดกระบวนการการทำงานในส่วนของมนุษย์ ทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งลดความเสี่ยงที่เกิดจากมนุษย์ โดยการบันทึกข้อมูลลงบนดิจิทัลได้โดยตรง
การยืนยันความเป็นเจ้าของบน Blockchain จะเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้ไว้ใจได้ว่าข้อมูลจะถูกบันทึกไว้อย่างถาวร
ในพื้นที่หรือประเทศที่มีสงครามบ่อยครั้งและไม่มีสถานที่ราชการมายืนยันความเป็นเจ้าของในที่ดินของชาวบ้านที่อยู่แถบนั้น เมื่อสงครามสงบลง ชาวบ้านมักได้รับความเสี่ยงและถูกขับไล่ของที่ดินของตนเองเนื่องจากไม่มีหลักฐานความเป็นเจ้าของ
Blockchain จะสามารถช่วยคนกลุ่มนี้ได้ โดยการยืนยันความเป็นเจ้าของผ่านทางดิจิทัล
ปัจจุบันหลายๆประเทศ เช่น มอลต้า อังกฤษ ใช้ Blockchain เก็บข้อมูลแทนโฉนด (Land Registry) และใช้เพื่อยืนยันสิทธิความเป็นเจ้าของในพื้นที่นั้นๆ (Asset Tokenization)
Blockchain & Supply Chains

บริษัท IBM Food Trust นำ Blockchain มาใช้ในการติดตามข้อมูลของสินค้าและวัตถุดิบที่พวกเขาซื้อมา เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าของเขาถูกต้อง รวมทั้งการเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อมาติดฉลากทั้งหลายเช่น สินค้าออร์แกนิค (Organic) และสินค้าพื้นเมือง (Local)
จากการรายงานของ Forbes อุตสาหกรรมด้านอาหาร กำลังพยายามใช้ Blockchain เพื่อติดตามสินค้าของพวกเขาตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงผู้บริโภค เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคมากขึ้น
Reference





Comments