top of page
Search

Blockchain คืออะไร?

  • Writer: pitchaba.crypto
    pitchaba.crypto
  • Feb 14, 2022
  • 1 min read

Updated: Mar 7, 2022

Blockchain เทคโนโลยีใหม่ที่จะมาปฏิวัติทุกวงการให้สะเทือนไปทั้งโลก

ธนาคารและเหล่าตัวกลางทั้งหลายเตรียมรับแรงกระแทก


ree


Blockchain คือฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed database) ที่แชร์ข้อมูลระหว่าง Nodes ของคอมพิวเตอร์


โดยฐานข้อมูลบล็อกเชนจะเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบดิจิทัล (Digital format)

นวัตกรรมใหม่ที่มี Blockchain จะรับประกันได้ว่ามีความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางหรือบุคคลที่สามมายืนยัน


เป็นที่รู้กันดีว่าในวงการ Cryptocurrency นำ Blockchain มาใช้งานร่วมด้วย เช่น Bitcoin ซึ่งมีการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์อย่างปลอดภัยและมีการยืนยันธุรกรรมต่างๆด้วย Nodes คอมพิวเตอร์ของคนจากทั่วโลก เป็นระบบการตรวจสอบข้อมูลที่เร็วรวด ทันสมัยและปลอดภัย


มากกว่านั้น Blockchain ยังถูกนำมาใช้กับเหรียญคริปโทต่างๆ, โปรเจกต์ Decentralized Finance (DeFi) และ Non-Fungible Tokens (NFTs) อีกด้วย


ความแตกต่างของ

Simple database & Blockchain database


ความแตกต่างระหว่างการจัดเก็บข้อมูลแบบธรรมดากับการจัดเก็บแบบ Blockchain คือ วิธีการจัดโครงสร้างข้อมูล (data structure) การจัดเก็บข้อมูลแบบปกติมักเก็บในรูปของตาราง


แต่สำหรับ Blockchain จะเก็บข้อมูลเป็นกลุ่ม หรือที่เรียกกันว่า Block แล้วนำมาเชื่อมต่อกันๆกันเป็นเส้น หรือที่เรียกว่า Chain


เมื่อบล็อกถูกเติมเต็มด้วยข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะถูกส่งขึ้นไปเชื่อมต่อกับบล็อกอื่นๆก่อนหน้า โดยที่แต่ละบล็อก หากถูกส่งขึ้นไปแล้วจะมีรอยตราของช่วงเวลาที่บันทึกไว้และไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้อีก


Distributed Database


ree

ปกติแล้วเราไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างปลอดภัยบนโลก Digital โดยปราศจากตัวกลางหรือธนาคารได้ เพราะข้อมูลบนโลก Digital เป็นข้อมูลที่สามารถ copy หรือแก้ไขได้ตลอดเวลา


ดังนั้นเมื่อเราต้องการโอนเงินให้นาย A จำนวน 500 บาท เราต้องให้ธนาคารมายืนยันการทำธุรกรรมนั้นว่าเราโอนเงินให้นาย A จำนวน 500 บาทจริง


แต่เมื่อเทคโนโลยี Blockchain ถือกำเนิด มันทำให้เราสามารถโอนเงินให้นาย A ได้อย่างปลอดภัยและไม่เกิดการแก้ไขภายหลังได้ โดยไม่ต้องมีตัวกลาง แต่ใช้การเก็บข้อมูลบนบล็อกแทน


เทคโนโลยี Blockchain ทำให้เราสามารถโอนเงินให้ใครก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่ต้องรอธนาคารเปิดทำการ และที่สำคัญสามารถโอนข้ามประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำมากด้วย



การทำงานของ Blockchain


เป้าหลักของการ Blockchain คือการสร้างระบบการบันทึกข้อมูลบน Digital โดยเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถทำลายหรือเปลี่ยนแปลงได้ และนั้นจึงเป็นสาเหตุให้ Blockchain เป็นที่รู้จักกันในรูปของ Distributed Ledger Technology (DLT)


ree

จากรูปเมื่อเกิดการธุรกรรมขึ้น ข้อมูลจะถูกส่งไปเก็บที่บล็อกโดยแต่ละบล็อกจะมีการอัพเดตข้อมูลจากบล็อกเดิมตลอดเวลา และไม่สามารถกลับไปแก้ไขบล็อกเดิมได้ ดังนั้นข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่จะถูกสร้างขึ้นไปในทางเดียวกัน


เหตุผลที่ทำให้เราไม่สามารถกลับไปแก้ข้อมูลในบล็อกเก่าๆได้เพราะ แต่ละบล็อกมีการเข้ารหัสไว้ เรียกว่า Cryptographic Hash ซึ่งเป็นเหมือนรหัสยืนยันที่จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น หากเกิดการแก้ไขย้อนหลัง รหัสนี้จะเปลี่ยนไปและจะทราบได้ทันทีว่าอันไหนคือบล็อกเดิม อันไหนคือบล็อกที่ถูกแก้ไข


Bitcoin vs. Blockchain

ree

“a new electronic cash system that’s fully peer-to-peer, with no trusted third party.”

คำอธิบาย Bitcoin จากผู้สร้างที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto


เทคโนโลยี Blockchain เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1991 โดย Stuart Haber และ W. Scott Stornetta นักวิจัย2คน ที่ต้องการสร้างเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่สามารถทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือโดยไม่ต้องมีตัวกลาง แต่ยังไม่เคยสำเร็จจนกระทั่งในปี 2009 เป็นปีที่ Bitcoin เปิดตัวและเป็นครั้งแรกที่ Blockchain ถูกนำไปใช้สำหรับการยืนยันธุรกรรมโดยไม่ต้องมีตัวกลางได้สำเร็จ


Bitcoin protocol ถูกสร้างบน Blockchain โดยคนที่มีนามแฝงว่า Satoshi Nakamoto ซึ่งเขาเรียกมันว่า "ระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ที่ทำงานแบบ peer-to-peer โดยไม่มีบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้"




Reference





 
 
 

Comments


SIGN UP AND STAY UPDATED!

Thanks for submitting!

  • Grey Twitter Icon
  • Grey LinkedIn Icon
  • Grey Facebook Icon

© 2022 by Pitchaba.Crypto  

bottom of page