SubQuery Network Whitepaper: ภาษาไทย (Full Version)
- pitchaba.crypto

- Mar 14, 2022
- 5 min read

SubQuery (Full version)
SubQuery Website : SubQuery
SubQuery Whitpaper : SubQuery Network Whitepaper
Important Notice
เอกสารนี้ (“เอกสารไวท์เปเปอร์”) จัดทำโดย SubQuery Pte Ltd.
ประกาศนี้มีไว้สำหรับผู้อ่านทุกคนที่ดูหรือเข้าถึง โดยไม่คำนึงถึงช่องทางการสื่อสารหรือแพลตฟอร์ม
เอกสารไวท์เปเปอร์มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ว่าในกรณีใดๆ จะไม่ถือว่าเป็นข้อเสนอหลักทรัพย์หรือคำเชิญให้เข้าร่วมในโครงการการลงทุน ไม่ว่าจะกำหนดไว้ในเขตอำนาจศาลใด ๆ ทั่วโลก และไม่มีข้อมูลใดในที่นี้ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำหรือการจูงใจให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนประเภทต่างๆ
นอกจากนี้ เอกสารนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดง "วิสัยทัศน์" ของ SubQuery มันอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ของเครือข่าย แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงขั้นสุดท้ายโดยมีการระบุพารามิเตอร์ แต่พารามิเตอร์เหล่านี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงตามแนวคิดและข้อเสนอแนะของชุมชนได้
นอกจากนี้ยังคาดว่าคำอธิบายหลักของโปรโตคอลนี้จะถูกใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับชุดของการพิสูจน์แนวคิด (proofs-of-concept) และจะมีการพัฒนาและปรับปรุงต่อไป
เราขอแนะนำให้คุณอ่านเอกสารไวท์เปเปอร์ทั้งหมด โดยเฉพาะหัวข้อ “ความเสี่ยงและการปฏิเสธความรับผิดชอบ” และทำความคุ้นเคยกับข้อมูลทั้งหมดที่กำหนดไว้ด้านล่าง
โปรดขอคำแนะนำจากที่ปรึกษามืออาชีพของคุณ รวมทั้งทนายความ ที่ปรึกษาทางการเงิน และนักบัญชีภาษี หากคุณมีปัญหา ความไม่แน่นอน หรือข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับเรื่องที่นำเสนอในสมุดปกขาว
Introduction
จุดประสงค์หลักของ SubQuery คือการค้นหาและมอบข้อมูลให้แก่ dApps เพื่อสร้างระบบการทำงานบนโลก blockchain ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
SubQuery เป็นเหมือนชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาในโลก Blockchain และเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของโครงสร้างพื้นฐานของ web3
SubQuery เป็น API ที่สมบูรณ์ในการจัดระเบียบและสืบค้นข้อมูลจาก Blockchain โดยเป็นการทำงานระหว่าง Layer 1 กับ dApps และเป็นระบบแบบ open-source ที่มีโครงสร้างข้อมูลที่เข้มแข็งอยู่บน GraphQL
ปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลบน Blockchain ได้ฟรีแต่เป็นรูปแบบของ Centralized แต่สำหรับ SubQuery Network จะเป็นการเข้าถึงข้อมูลในลักษณะเดียวกันแต่อยู่ในรูปแบบของ Decentralized
The Problem
การจะสร้างโปรเจคก์ที่มีความซับซ้อนแต่ใช้งานง่าย จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ดีเพื่อสืบค้นข้อมูลและประมวลผลที่รวดเร็ว
จุดอ่อนของข้อมูลจาก Blockchain (ที่มีการจัดเก็บข้อมูลแบบ Decentralized) คือ ประสิทธิภาพการประมวลผลและการสืบค้นข้อมูลที่ค่อนข้างต่ำ
เพราะวิธีการจัดเก็บข้อมูลเป็นแบบกระจายศูนย์ (Decentralized datastore) ทำให้การตอบคำถามทั่วไปเป็นเรื่องที่ยาก เช่น จำนวนโทเค็นทั้งหมดในกระเป๋าเงินมีเท่าไหร่ การจะหาคำตอบนี้ได้ จำเป็นต้องสำรวจทุกธุรกรรมตั้งแต่บล็อกแรก และอาจจำเป็นต้องสร้างดัชนีเพื่อแปลงข้อมูล
มากกว่านั้นในอนาคต SubQuery เชื่อว่าจะมีเครือข่าย Layer 1 เพิ่มขึ้นและดึงดูดนักพัฒนา dApps และผู้ใช้มากขึ้น ดังนั้นการสืบค้นและประมวลผลก็จะยากยิ่งขึ้นเช่นกัน
ทำให้เห็นชัดว่าการสร้างโปรเจคก์ที่มีประสิทธิภาพสูง นักพัฒนาต้องการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลและสืบค้นข้อมูลได้เร็วขึ้น
ดังนั้น โลกจึงต้องการแพลตฟอร์ม open-source ที่ไม่เหมือนใคร ยืดหยุ่น และช่วยปลดล็อกการเข้าถึงของข้อมูลนี้
SubQuery’s Solution
SubQuery ถูกใช้ร่วมกับแอปพลิเคชันชั้นนำบางตัวใน Polkadot มากกว่านั้น SubQuery ให้บริการคำขอ API หลายสิบล้านรายการต่อวัน ปัจจุบัน ลูกค้าจำนวนมากต้องใช้ SubQuery เพื่อเข้าถึงข้อมูลและนำไปใช้จริงในแอปพลิเคชันชั้นของพวกเขา
ลูกค้าของ SubQuery มีด้วยกันหลายประเภท เช่น
ลูกค้าจากกระเป๋าสตางค์ที่ใหญ่ที่สุด : Nova และ Fearless
ลูกค้าจากสแกนเนอร์ : Subscan, SubVis และ DotMarketCap
ลูกค้าจากแพลตฟอร์ม NFT : Kodadot และ Yuser
SubQuery ทำสิ่งต่างๆทั้งหมดนี้โดยการมีเครื่องมือสำคัญสี่อย่างที่มีให้สำหรับนักพัฒนา
The SDK
SubQuery Projects
SubQuery Explorer,
และ SubQuery Network ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้
1. SubQuery’s SDK
SubQuery เริ่มต้นการมีส่วนร่วมกับ Web 3 โดยการส่งมอบ open-source Software Development Kit (SDK) คู่มือสำหรับการใช้งานแบบ open-source
SDK อนุญาตให้ผู้ใช้ นำไปสร้างโครงการ SubQuery ในแบบของตัวเอง โดยกำหนดวิธีที่จะทำดัชนีที่ควรสำรวจและวิธีการรวบรวมโปรโตคอลด้วยตัวเอง
SDK มีใบอนุญาต Apache (v2.0) และได้รับการดูแลจากทีมของ SubQuery โดยทางทีมงานมีความตั้งใจจะนำเสนอรูปแบบใหม่และพัฒนาประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทุกคนที่ใช้ SDK สามารถสร้างระบบและเปิดใช้งานโครงสร้างพื้นฐานของ SubQuery ได้
มากกว่านั้น SubQuery ยังจัดเตรียมเอกสารวิธีใช้ คู่มือแนะนำ และเอกสารอื่นๆ ให้กับชุมชนเพื่อช่วยในการเริ่มต้นใช้งาน SubQuery และปลดล็อกข้อมูลสำหรับรูปแบบการใช้งานต่างๆของพวกเขา
สรุปคือ SDK จะทำให้ใครก็ตามที่สนใจสามารถสร้างและเปิดใช้งานโปรเจคก์ SubQuery ของคุณเองได้ โดยสามารถออกแบบ GraphQL API ของคุณให้เหมาะสมและนำไปใช้ร่วมกับ dApp ของคุณเองได้เลย
“ความสำเร็จของ SubQuery ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของชุมชน”
2. SubQuery Projects
SubQuery Projects เป็นบริการที่มีการจัดการแบบออนไลน์ ให้ใครก็ตามที่สนใจเผยแพร่โครงการ SubQuery ของตนเองเพื่อใช้งานทั้งแบบสาธารณะและส่วนตัว
SubQuery เปรียบเสมือนทั้งผู้ให้บริการและผู้ดูแลโปรเจคให้คุณอย่างปลอดภัยแบบไม่มีค่าใช้จ่ายและทำให้คุณสามารถแชร์โปรเจคของคุณสู่ผู้คนทั่วโลกได้
ทีม SubQuery จะจัดการโครงสร้างพื้นฐานในชื่อของคุณ โดยปรับให้โปรเจ็กก์ของคุณให้เข้ากับกับโหนดของเราที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อเพิ่มความสามารถมากยิ่งขึ้น
SubQuery จะช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะ SubQuery จะจัดการกับการรันเซิร์ฟเวอร์ การจัดทำดัชนี ความน่าเชื่อถือ และการปรับขนาด
ดังนั้นเมื่อคุณเรียนรู้วิธีการสร้างโปรเจคก์จาก SDK คุณสามารถมาเปิดใช้งานระบบบนโหนดของ SubQuery เพื่อให้คุณสะดวกและได้รับประสิทธิภาพสูงสุดของการทำงาน โดยทั้งหมดนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย
3. SubQuery Explorer
SubQuery Explorer เป็นบริการจัดการแบบออนไลน์ที่ให้คุณเข้าถึงข้อมูลต่างๆภายในโครงการ SubQuery ที่มาจากชุมชนของเรา
คุณสามารถทดสอบการค้นหาได้โดยตรงผ่านบราว์เซอร์ของคุณโดยใช้ Playground หรือรับตำแหน่งข้อมูล GraphQL API สำหรับแต่ละโปรเจคก์
4. SubQuery Network
การให้บริการการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เมื่อระบบที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน ปรับขนาดได้ และยืดหยุ่นได้ ถูกเปิดใช้งานแล้ว จำเป็นต้องมีทีมวิศวกรโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กคอยควบคุมและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องดังนั้นนี้จึงเป็นงานที่ไม่มีใครอยากทำ
SubQuery มองว่าทีมพัฒนาไม่ควรใช้เวลาในการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน พวกเขาควรมุ่งเน้นที่การสร้างอนาคต
ดังนั้น centralized service จึงได้เปรียบในส่วนนี้ แต่อย่างไรก็ตามการให้บริการรูปแบบรวมศูนย์ มักถูกมองว่าเป็นการครอบงำตลาดมากเกินไป
SubQuery ก็เห็นด้วยกับมุมมองนั้น และเชื่อว่าในอนาคต จะมีผู้ให้บริการข้อมูลแบบกระจายศูนย์มากยิ่งขึ้น นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ SubQuery มุ่งเน้นไปที่เครือข่าย SubQuery
SubQuery มีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ การจัดระเบียบข้อมูล Blockchain ก้าวเข้าสู่การกระจายศูนย์ทั่วโลก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีจุดบกพร่องสำหรับ SubQuery
และเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานรวมทั้งการลดเวลาการทำงานให้กับ SubQuery อย่างมากอีกด้วย สำหรับแอปพลิเคชัน จะสามารถใช้งาน GraphQL เพื่อสืบค้นข้อมูลต่างๆ โดยการสร้างดัชนีทั่วเครือข่าย
SubQuery ต้องการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ในอนาคต ในระบบนิเวศบล็อกเชนที่แตกต่างกัน และเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่กระจายอำนาจ
หลักการสำคัญของ SubQuery Network คือความเรียบง่าย
เพราะโดยปกติแล้ว การให้บริการสืบค้นข้อมูลที่กระจายอำนาจนั้นซับซ้อนเกินไป และทำให้ผู้ใช้งานคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนได้ยาก
ดังนั้นสิ่งสำคัญอีกอย่างของเครือข่าย SubQuery คือการมีส่วนร่วมในเครือข่ายได้ง่าย และคาดการณ์ผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างชัดเจน
มากกว่านั้น SubQuery ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานแบบข้ามกลุ่มเชนใน Layer 1 ได้ (cross multiple layer 1 chains)
The SubQuery Token (SQT)
SubQuery Token (SQT) ถูกออกแบบให้เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ (utility token) ที่ขับเคลื่อนเครือข่าย SubQuery โดยจะถูกใช้เป็นสิ่งจูงใจสำหรับการมีส่วนร่วม ตลอดจนทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสำหรับธุรกรรมภายในเครือข่าย SubQuery
ผู้ที่ต้องการข้อมูลจะจ่าย SQT เพื่อแลกกับข้อมูลจากตัวสร้างดัชนี และ SQT นี้จะถูกกระจายไปยังตัวสร้างดัชนีตามวิธีการชำระเงินที่กำหนด
SubQuery ไม่มีเจตนาให้ SQT ถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการนอกเครือข่าย SubQuery
SQT ไม่ได้เป็นตัวแทนหรือมอบสิทธิ์, กรรมสิทธิ์, ผลประโยชน์หรือการมีส่วนร่วมใน, ความเป็นเจ้าของ, การถือหุ้น และ/หรือการจัดการ SubQuery ใดๆ
SQT จะไม่ให้สิทธิ์แก่ผู้ถือ เกี่ยวกับค่าธรรมเนียม เงินปันผล รายได้ ผลกำไร หรือผลตอบแทนจากการลงทุน แต่จะถูกใช้สำหรับการให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูล พวกเขาจะได้รับรางวัลใน SQT
เพื่อที่จะเป็นดัชนีบนเครือข่าย SubQuery ตัวสร้างดัชนีจะต้องจัดหาฮาร์ดแวร์ที่จำเป็น เรียกใช้บริการ SubQuery ที่จำเป็น จากนั้นเลือกโครงการ SubQuery ที่พวกเขาสร้างดัชนีและให้บริการสืบค้นข้อมูล
มุมมองของ SubQuery คือ อุตสาหกรรมจะสามารถให้บริการได้ดีกว่าองค์กรแบบรวมศูนย์ และคาดว่าประสิทธิภาพของ SubQuery จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการกระจายอำนาจแบบก้าวหน้าเท่านั้น
Network Participants
สำหรับผู้มีส่วนร่วมหลัก มีด้วยกัน 3 ส่วน ดังนี้
Consumers: ผู้ที่ต้องการใช้งานหรือข้อมูลจากทางเครือข่าย SubQuery และจะจ่ายด้วย SQT สำหรับการแลกเปลี่ยน
Indexers: ผู้สร้างดัชนีโครงการ SubQuery ในโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง โดยจะเรียกใช้ทั้งโหนดและบริการค้นหาเพื่อสร้างดัชนีข้อมูลและตอบคำขอของ Consumer
Delegators: เข้าร่วมในเครือข่ายโดยการสนับสนุน Indexers ที่พวกเขาชื่นชอบเพื่อรับรางวัล
ผู้เข้าร่วมรายย่อยเพิ่มเติม ได้แก่ :
Verifiers: ตัวตรวจสอบช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างตัวสร้างดัชนีต่างๆ โดยการจัดทำดัชนีชั่วคราวและยืนยันหลักฐานการแฮชการจัดทำดัชนีที่ถูกต้อง (confirming correct proof of indexing hashes) เมื่อมีข้อขัดแย้งระหว่างตัวสร้างดัชนีต่างๆ สำหรับโครงการเดียวกัน
Query Provider: ผู้จัดหาข้อมูลจะได้รับข้อมูลจากตัวทำดัชนีอื่น ๆ และดำเนินการให้บริการสืบค้นข้อมูล รวมทั่งตอบคำขอ GraphQL ในช่วงเริ่มต้นของเครือข่าย Query Provider จะให้บริการทั้งสืบค้นข้อมูลและจัดทำดัชนี แต่เมื่อเวลาผ่านไป งานทั้งสองนี้อาจแยกจากกัน เพื่อเป็นการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับโปรโตคอลทั่วไป อาจมีบทบาทภัณฑารักษ์ (Curator role) เป็นผู้สร้างแหล่งข้อมูลเฉพาะ แต่สำหรับ SubQuery จะใช้แผน (Plans) เพื่อแทนที่บทบาทภัณฑารักษ์ หมายความว่าผู้สร้างโครงการ SubQuery สามารถเป็นผู้เข้าร่วมประเภทใดก็ได้ในเครือข่าย SubQuery
The Era
เครือข่าย SubQuery มุ่งเน้นไปที่จุดคงที่เดียว หรือเรียกอีกอย่างว่า SubQuery Era โดยในขั้นตอนนี้ คาดว่ายุคหนึ่งจะเป็นตัวแทนของ 7 วัน
The Era แสดงถึงช่วงเวลาในการตั้งค่าและการดำเนินการต่างๆ ภายในเครือข่าย SubQuery ประกอบด้วย:
การจัดสรรรางวัลในเครือข่ายจะทำเมื่อสิ้นสุดยุค
ความยาวของแผนแสดงอยู่ในจำนวน Era
การดำเนินการใหม่หรือการมอบหมายใหม่จะถูกจัดคิวเมื่อสิ้นสุดยุค
การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าคอมมิชชันตัวสร้างดัชนีจะอยู่ในคิวเมื่อสิ้นสุดยุค (หรือยุคต่อมาในบางกรณี)
Payment Methods
วิธีการชำระเงินในเครือข่าย SubQuery มีการวางแผนไว้หลายวิธีเพื่อทำให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดมีวิธีที่ยืดหยุ่นหลากหลายในการทำธุรกรรม SQT ทั้ง Indexers และ Consumers จะรวมตัวกันใน Plan Marketplace เพื่อบอกถึงการกำหนดราคาและวิธีการชำระเงินที่รองรับ
1. Pay as You Go (PAYG)
สิ่งสำคัญและเป็นมาตรฐานใหม่ในหมู่อุตสาหกรรม web3 คือจ่ายเท่าที่คุณใช้งาน (Pay as you Go)
นี่เป็นวิธีการชำระเงินพื้นฐานและเป็นทางเลือกสำหรับทุกคน โดย Indexer แต่ละตัวจะบอกราคา PAYG เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการลงทะเบียนการเข้าใช้บริการสำหรับโครงการ SubQuery
Consumer ที่ต้องการส่งคำขอจะต้องล็อกโทเค็นที่จำเป็นในการส่งคำขอนั้น เมื่อสิ้นสุดยุค โทเค็นเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายไปยัง Indexer ตามฟังก์ชันการผลิตของ Cobb-Douglas (ดู Indexer Staking)
ส่วนหนึ่งของงานในการสร้างโทเค็น SQT คือมีการวางแผนพาเลท micropayment แบบมีเงื่อนไขบน Substrate
2. Closed Agreement
Closed Agreement เป็นข้อตกลงระหว่าง 1 Indexer และ 1 Consumer เท่านั้น ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมกันโดยตรงในการชำระเงินระหว่างสองฝ่าย เมื่อทำงานร่วมกันและงานสำเร็จ
วิธีนี้จะช่วยให้ Indexer มั่นใจใน ROI เมื่อเลือกจัดทำดัชนีโครงการ SubQuery ใหม่ และช่วยให้ Consumers สามารถดึงดูด Indexer สำหรับโครงการใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ทั้ง Indexer และ Consumer สามารถลงรายละเอียดของ Closed Plan ได้ใน Plan Marketplace โดยระบบของ Closed Plan จะมีโครงสร้างคล้ายกับการชำระเงินตามการต่ออายุสมาชิก เช่นเดียวกับสิ่งที่เราใช้ใน web2
Closed Plan จะมีละเอียดดังต่อไปนี้:
จำนวนสูงสุดของ Indexer และ Consumer ที่ยอมรับแผนแบบปิดได้ (ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้จำนวนข้อตกลงแบบปิดสามารถติดตามผลได้)
ระยะเวลาการโฆษณาของแผนบน Plan Marketplace (ในแง่ของจำนวนยุค)
แผนนี้มีทั้งหมดกี่ยุค
จำนวนคำขอสูงสุดในแต่ละวัน
รางวัลทั้งหมดของแผนที่จะแจกจ่ายเป็น SQT
เมื่อใครก็ตามยอมรับเงื่อนไขของ Closed Plan เหล่านี้ จะนำไปสู่การสร้างClosed Agreement ระหว่าง 2 ฝั่ง
3. Open Agreement
Open Agreements คล้ายกับ Closed Agreements แต่จะมี Indexers หลายรายเข้าร่วมและต้องแข่งกันจัดหาข้อมูลให้แก่ Consumer
ในช่วงแรก Open Agreement อาจเริ่มต้นด้วย 1 Consumer และ 1 Indexer แต่รายอื่นก็สามารถเข้าร่วมการทำข้อตกลงนี้ ซึ่งส่งผลให้สามารถมี Indexers และ Consumers อย่างละกี่รายก็ได้
Open Agreement แต่ละข้อส่งผลให้มีการสร้างกลุ่มรางวัลใหม่สำหรับข้อตกลงนั้น และ SQT จะถูกแจกจ่ายให้กับ Indexer ที่เข้าร่วมโดยฟังก์ชันการผลิตของ Cobb-Douglas
Open Plan จะถูกบอกรายละเอียดที่ Plan Marketplace จากฝั่งของ Indexer หรือ Consumer และเมื่อใดก็ตามที่มีฝั่งอื่นยอมรับข้อกำหนด Open Agreement จะเริ่มต้นขึ้นและสร้างกลุ่มรางวัลใหม่
หากมีข้อตกลงแบบเปิดอยู่แล้วสำหรับแผนเปิด ฝ่ายนั้นก็จะเข้าร่วมข้อตกลงเปิดที่มีอยู่ก่อนแล้ว
Open Plan ถูกจัดโครงสร้างให้คล้ายกับการต่ออายุสมาชิก เช่นเดียวกับที่เราใช้ใน web2
Open Plan จะรวมรายละเอียดบนเครือข่ายดังต่อไปนี้:
จำนวนสูงสุดของ Indexers ที่สามารถเข้าร่วม Open Agreement
ระยะเวลาการโฆษณาของแผนบน Plan Marketplace (ในแง่ของจำนวนยุค)
แผนนี้มีทั้งหมดกี่ยุค
จำนวนคำขอสูงสุดในแต่ละวัน
รางวัลทั้งหมดของแผนที่จะแจกจ่ายเป็น SQT
Open Agreements จะสามารถให้เงื่อนไขที่ดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย (Indexers และ Consumers) ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือที่ดีขึ้นสำหรับ Consumers โดยดึงดูด Indexers ให้แข่งขันและให้บริการข้อมูลเดียวกันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานแอปพลิเคชันขนาดใหญ่กับผู้ใช้ทั่วโลก Open Agreements ก็ยิ่งเหมาะมากขึ้นComparison of Payment Methods
SubQuery มีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็นตลาดที่จะทำให้ทั้งผู้บริโภคและนักสร้างดัชนีสามารถพบกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับโทเค็น SQT
อย่างไรก็ตาม Indexer ต้องรับภาระมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจำนวนมากก่อนจึงจะสามารถขายข้อมูลจากโครงการ SubQuery ใหม่ได้
Closed and Open Agreements ถูกออกแบบมาเพื่อให้ Indexer มั่นใจว่ามีความต้องการสำหรับข้อมูลจากโครงการ SubQuery โดยเฉพาะ และส่งสัญญาณไปยังพวกเขาว่าโครงการใดควรได้รับการจัดทำดัชนี
แผนยังสามารถวางในโปรเจ็กต์ SubQuery ที่มีอยู่เพื่อดึงดูด Indexers เพิ่มเติมให้กับโปรเจ็กต์ SubQuery นั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในกรณีที่มี Indexers บางตัวผูกขาด ที่อาจเรียกเก็บเงินจำนวนที่ไม่สมเหตุผลสำหรับข้อมูลหรือไม่มีการแข่งขันเพื่อผลักดันราคาให้เข้าสู่สมดุล
เมื่อ Consumer ใช้งานเกินกว่าข้อตกลงที่ทำไว้ทั้งแบบ Open Agreement หรือ Closed Agreement คำขอเหล่านั้นจะไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของข้อตกลง ดังนั้นเงื่อนไขแบบ Pay as you Go จะถูกใช้งานโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้จะช่วยป้องกันการหยุดชะงักของบริการหลังจากใช้งานเกินขีดจำกัดรายวันที่กำหนด

Indexer Staking
เพื่อที่จะได้รางวัลจากการสืบค้นข้อมูล Indexer ต้องมีส่วนร่วมหรือ stake SQT กับโครงการ SubQuery ที่พวกเขาให้บริการ ฟังก์ชันการผลิตของ Cobb-Douglas จะถูกใช้เพื่อกำหนดรางวัลที่แจกจ่ายให้กับ Indexer แต่ละตัว
บางครั้งอาจมีการเปิดใช้งานหลายกลุ่มรางวัลพร้อมกันสำหรับ Indexer ที่กำหนด งานของ Indexer คือการจัดสรร SQT ที่เดิมพัน (stake)และมอบหมายให้กับกลุ่มเหล่านี้ (ในแง่ของเปอร์เซ็นต์ของ SQT ทั้งหมด)
จะมีบางกลุ่มที่ Indexer เปิดใช้งานแบบ PAYG และบางกลุ่มเปิดใช้งานแบบ Market Agreement แต่สำหรับ Closed Agreement การผลิตของ Cobb-Douglas จะไม่ใช้เพื่อจัดสรรรางวัลให้กับ Indexer


The query fee revenue that Indexer (i) can receive for the reward pool (𝑝) is defined by the Cobb-Douglas production function.
Where;
𝑅𝑒𝑣𝑒𝑛𝑢𝑒𝑝 is the total SQT in the reward pool 𝑝,
σip the number of requests provided by Indexer 𝑖 for the reward pool 𝑝,
σp the number of requests for reward pool 𝑝 across the entire protocol,
θip is the staked amount for Indexer 𝑖 for reward pool 𝑝,
θp the total staked amount for the reward pool 𝑝 across all participating indexers
แนวทางนี้ได้รับการสนับสนุนโดยทีม 0x หมายความว่ารายได้จะถูกจัดสรรให้กับ Indexers ที่แข่งขันกันตามสัดส่วนของการทำงานตามคำขอและเงินเดิมพัน
ความสวยงามของสมการนี้คือตัวสร้างดัชนีที่มีเหตุผลเพื่อรักษาระดับ SQT ที่เดิมพันให้คงที่โดยสอดคล้องกับงานที่พวกเขาทำตามลำดับเพื่อให้ได้รายได้ที่เหมาะสมที่สุด
ด้วยเหตุนี้ SubQuery Network จึงไม่จำเป็นต้องบังคับใช้ข้อกำหนด เนื่องจาก Indexers มีแรงจูงใจให้จัดการเองและรักษาเงินเดิมพันให้เหมาะสม
SubQuery วางแผนที่จะเพิ่มข้อจำกัดให้กับเครือข่ายโดยที่ Indexer ต้องเดิมพันจำนวน SQT ขั้นต่ำในกลุ่มรางวัลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถเข้าร่วมในข้อตกลงเปิดที่ตรงกันได้
พวกเขาต้องเดิมพันจำนวนเงินขั้นต่ำในสัญญาการถือหุ้นที่เทียบเท่าสำหรับข้อตกลงที่ปิดในลักษณะเดียวกัน
มูลค่าขั้นต่ำที่ Indexer วางไว้ต้องเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่ของมูลค่ารางวัลต่อยุคของข้อตกลง ซึ่งหมายความว่าในการต่ออายุข้อตกลงให้มีปริมาณมากขึ้น ตัวทำดัชนีต้องเพิ่มเงินเดิมพันด้วย
เมื่อเงินเดิมพันของ Indexer ลดลงต่ำกว่าจำนวนขั้นต่ำนี้ พวกเขาจะไม่สามารถต่ออายุข้อตกลงในราคาที่มีอยู่ได้
หาก Indexer ถูกจับได้ว่ามีพฤติกรรมผิดปกติ (เช่น การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์) พวกเขาจะต้องเสียส่วนหนึ่งของ SQT ที่เดิมพันไว้ (ในพูลรางวัลเฉพาะ θip) ที่จัดสรรใหม่ให้กับ SubQuery Foundation Treasury ซึ่งจะทำให้การถือครอง SQT ของพวกเขาลดลงในเครือข่าย
เนื่องจากสัดส่วนการถือหุ้นของ Indexer จะกำหนดโดยเปอร์เซ็นต์ของ SQT ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลต่อกลุ่มรางวัลอื่นๆ ทั้งหมดที่ Indexer มีส่วนร่วม
Indexer Delegation
SubQuery วางแผนที่จะอนุญาตให้ผู้ถือโทเค็น SQT ช่วยเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมการสืบค้นของ Indexers โดยการวางโทเค็น SQT ของตนเอง สำหรับการ Stake
Indexer จะโฆษณาอัตราค่าคอมมิชชันของดัชนี ซึ่งสะท้อนถึงส่วนของรายได้ที่ Indexer ได้จากแหล่งรายได้ทั้งหมด
จากนั้น รายได้ที่เหลือจะถูกแบ่งใช้ภายใน Delegators ตามสัดส่วนการถือครองโทเค็นภายใน staking pool ผู้มอบสิทธิ์จะได้รับรายได้ stake ในยุคที่พวกเขาวางเดิมพัน ซึ่งพวกเขาต้องเป็นส่วนหนึ่งตลอดระยะเวลาของยุคเท่านั้นจึงจะได้รับรางวัล
ตัวอย่างเช่น หากพวกเขาเข้าร่วมยุคการปักหลักในช่วงกลางของช่วงเวลาที่เกี่ยวข้อง พวกเขาจะไม่ได้รับรายได้จากการสืบค้นใด ๆ สำหรับยุคนั้น ๆ
หาก Indexer ต้องการเพิ่มอัตราค่าคอมมิชชัน พวกเขาต้องมอบให้กับตัวแทนของตนเช่นกัน โดยพวกเขาต้องโฆษณาสิ่งนี้ตลอดยุค สำหรับการลดอัตราค่าคอมมิชชัน Indexer สามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้ เพื่อเพิ่มจำนวนของผู้มีส่วนร่วมในการ stake สำหรับระยะเวลาสั้นๆ
ผู้เข้าร่วมมีสิทธิ์ถอนหรือยกเลิกการมอบหมายจำนวนเดิมพันของตนได้ตลอดเวลา แต่พวกเขาจะถูกริบรางวัลที่ได้รับภายในยุคการปักหลัก (เนื่องจากพวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งตลอดระยะเวลาของยุคการปักหลัก)
SubQuery มีความต้องการตั้งค่าสัดส่วนการถือหุ้นดัชนีของตน (Indexer Delegation Ration) เพื่อการจำกัดจำนวนของผู้มีส่วนร่วมที่ Indexer จะสามารถรับไหว เพื่อควบคุมให้ปริมาณอยู่ในระดับสมดุล
อัตราส่วนนี้จะช่วยให้มั่นใจว่า Indexers ยังคงมีความสามารถเพียงพอต่อเกมโดยมี SQT เป็นเดิมพันเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาทำงานผิดปกติ
Indexer Discovery
Kademlia DHT ถูกสร้างเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถค้นพบและเลือก Indexer ในเครือข่ายภายใน Open Agreement และ PAYG ได้
ผู้เข้าร่วมทุกคนสามารถเรียกใช้บริการ DHT ในเครือข่ายของเรา และผู้บริโภคสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อค้นหาปลายทางของโครงการ SubQuery บนเครือข่าย
ผู้บริโภคสามารถเรียกใช้บริการ Directory service ของตนเองได้เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน แต่จะไม่มีการให้รางวัลสำหรับการใช้บริการนี้ มากกว่านั้น Directory service มีการประมวลผลต่ำและมีปริมาณการใช้งานสูง
เครื่อข่าย DHT จะจัดหาข้อมูลเกี่ยวกับแฮชของโปรเจ็กต์ SubQuery สำหรับตัวสร้างดัชนีแต่ละตัว และแต่ละโปรเจ็กต์จะแสดงรายการ URL ปลายทางของตัวสร้างดัชนี, บล็อกปัจจุบัน, สรุปรายงานบริการล่าสุด (เวลาแฝง) และรายการที่อนุญาตของ IP ที่สามารถให้ข้อมูลนี้ได้
รายงานการบริการเหล่านี้จะจัดทำโดย Consumers ในช่วงเวลาหนึ่ง ด้วยการบันทึกและรวบรวมความเร็วเฉลี่ยจาก Indexers เหล่านี้ นอกจากนี้เครือข่ายจะให้รางวัลที่ดีกว่า สำหรับผู้ให้บริการที่มีการรับส่งข้อมูลที่มากกว่า
IP address ที่ถูกอนุญาตให้สามารถเข้าถึงได้ จะช่วยให้ Indexer สามารถวางแผนการให้บริการในภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถแข่งขันได้มากที่สุดในแง่ของประสิทธิภาพ
Indexer อาจถูกเรียกใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในหลายภูมิภาค โดยแต่ละแห่งจะทำงานให้แต่ละภูมิภาคอย่างเต็มที่ ซึ่งอยู่ในรูปแบบของเครือข่ายที่กระจายไปทั่วโลก
มากกว่านั้น ยังสามารถช่วยบริษัทเอกชนในการใช้งานโครงการ SubQuery แบบส่วนตัว ที่ทำงานกับกลุ่ม Consumer แบบส่วนตัว โดยจำกัด IP address ที่สามารถเข้าถึงได้ (เช่น ข้อมูลภายในสำหรับองค์กรส่วนตัวเท่านั้น)
Network Value Flow

Competitive Advantages
หลักการที่สำคัญของ SubQuery Network คือความเรียบง่ายและความยืดหยุ่นสำหรับการใช้งานในวิธีที่แตกต่างกัน รวมถึงการชำระเงินที่หลากหลายและการทำงานในเครือข่ายที่ต่างกัน
ในขณะที่เครือข่ายอื่นๆ มีผู้เข้าร่วมเครือข่ายหลักที่แตกต่างกันมากมาย SubQuery มุ่งเน้นไปที่สามบริการหลักๆ
ในขณะที่เครือข่ายอื่นๆ มีกลไกการส่งสัญญาณอัลกอริธึมที่ซับซ้อน SubQuery อาศัยสัญญาณพื้นฐานที่สุดเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
ในขณะที่เครือข่ายอื่นๆ มีรูปแบบการชำระเงินเพียงแบบเดียว (โดยทั่วไปคือ PAYG) SubQuery มีตัวเลือกการสมัครรับข้อมูลหลายแบบเพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานสำหรับผู้บริโภคและนักสร้างดัชนีมากที่สุด
และสุดท้าย เครือข่ายอื่นรองรับเพียงหนึ่งเชนเลเยอร์1 SubQuery ถูกออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานแบบมัลติเชนตั้งแต่เริ่มแรก
Multi-Chain by Design
Polkadot คือบ้านและเป็นตำแหน่งของเครือข่าย SubQuery
หลักการสำคัญของ Polkadot คือการสร้างชุมชนที่มีทั้งนักพัฒนา ผู้ใช้ และธุรกิจที่เฟื่องฟู ที่จะใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันแบบมัลติเชน
SubQuery เชื่อแนวคิดที่ว่า ชุมชนบล็อคเชนจะทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนและนำไปสู่ web3 ที่แท้จริงในอนาคต และ Polkadot จะเป็นผู้เล่นชั้นนำในโครงการดังกล่าว
Natural Demand Signalling and Different Payment Options
ลักษณะพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการซื้อขาย (Marketplaces) ของ SubQuery จะมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขายที่พยายามจะขายข้อมูลเป็นสินค้า ที่จะนำไปสู่การส่งสัญญาณความต้องการซื้อและความต้องขายที่อาจยุ่งยากได้ในอนาคต
สำหรับเครื่องข่ายอื่นๆ จะสร้างบทบาทปลอมเพื่อคาดการณ์ปริมาณความต้องการของตลาดในอนาคต
สำหรับ SubQuery มีแนวทางที่แตกต่างออกไป ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณความต้องการในตลาดตามธรรมชาติล่วงหน้า
Consumer จะได้รับประโยชน์จากแผนเปิดหรือแผนปิดเพื่อระบุและมอบหมายงานที่ถูกต้องตามความต้องการสำหรับโครงการ SubQuery ใหม่
สิ่งนี้จะส่งเสริมและสนับสนุนความต้องการขาย ในราคาและปริมาณคงที่ (โดยพื้นฐานแล้วช่วยรักษารางวัลที่จัดสรรไว้ล่วงหน้าสำหรับตัวสร้างดัชนีของโครงการ SubQuery) และทำให้ราคาและการบริการคงที่แก่ทั้งสองฝ่าย
ซึ่งวิธีนี้จะสามารถใช้เพื่อดึงดูด Indexers ให้กับโครงการ SubQuery ใหม่ และเพื่อดึงดูด Indexers เพิ่มเติมให้กับโครงการ SubQuery ที่มีอยู่แต่ยังไม่มีการแข่งขัน
มากกว่านั้น ยังมีตัวเลือกการสมัครรับข้อมูลขั้นสูงที่หลากหลายไว้สำหรับ Consumers และ Indexers
บางฝ่ายอาจได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนที่แน่นอนจากข้อตกลงแบบปิดและการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นประจำ
บางฝ่ายอาจต้องการค้นหาข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแทน โดยมุ่งไปที่ข้อตกลงที่เกิดซ้ำจำนวนมากหรือราคาสปอตที่ต่ำและใช้วิธีชำระเงินแบบ Pay as you Go
Flexibility
ศักยภาพของ SubQuery คือความยืดหยุ่นของมัน ผู้ใช้จะมีอิสระในการปรับและแปลงข้อมูลแบบกระจายศูนย์เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของพวกเขา
นักพัฒนา dApp ต้องการข้อมูลในรูปแบบเฉพาะสำหรับ dApp ของพวกเขา เพื่อความสะดวกในการพัฒนาและแยกความแตกต่างจากผู้อื่น
ต่างจากผู้ใช้บริการ API แบบกระจายศูนย์รายอื่น SubQuery เป็นโอเพ่นซอร์ส ดังนั้น Consumers จะมีอิสระในการกำหนดชุดข้อมูลของตนให้มีความเฉพาะเจาะจงกับความต้องการของพวกเขา
แทนที่จะต้องรวบรวมและค้นหาข้อมูลจากปลายทาง API ที่แตกต่างกัน ผู้สร้างและผู้บริโภคของโครงการ SubQuery สามารถกำหนดรูปร่างของตัวแบบข้อมูล API ได้ด้วยตนเอง สิ่งนี้ช่วยให้ประหยัดเวลา เงิน และมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับผู้ใช้ปลายทาง
Simple and Accessible
เครือข่าย SubQuery ถูกออกแบบเพื่อเป็นผู้ให้บริการข้อมูลของทุกคน
มันถูกออกแบบให้ไม่จำเป็นต้องมีผู้ร่วมลงทุนรายใหญ่ แต่จะมุ่งเน้นไปที่การทำให้ SubQuery ใช้งานง่ายกว่าคู่แข่ง อย่างที่เคยกล่าวไว้ ความสำเร็จของ SubQuery ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของผู้คนที่สร้างอนาคตบนนี้
หมายความว่าเป้าหมายการออกแบบคือการทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ง่ายที่สุด
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักพัฒนาหรือมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจของโทเค็น คุณก็สามารถเข้าร่วมในฐานะผู้มอบสิทธิ์ (Delegator) ได้อย่างง่ายดาย
ในฐานะ Consumer คุณก็มีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย เพื่อออกแบบให้ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
นักพัฒนาโครงการ SubQuery ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญบล็อกเชน พื้นฐานที่สำคัญของ SubQuery คือการให้ความสนับสนุนต่อทุกคน ตั้งแต่ทีมบล็อกเชนที่เชี่ยวชาญไปจนถึงนักพัฒนาอดิเรกมือใหม่ ให้สามารถสร้างโครงการของตนเองได้
Indexer/Delegator Imbalance
ในบรรดาคู่แข่งของเครือข่าย แสดงให้เห็นว่า ความไม่สมดุลระหว่างผู้จัดทำดัชนีและผู้มอบสิทธิ์ (Indexers and Delegators) ในแง่ของความสามารถในการเปลี่ยนอัตราการมอบหมายงานน เป็นเรื่องที่สำคัญและไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
SubQuery พยายามรักษาความสมดุลนี้ โดยกำหนดให้ Indexer โฆษณาเพิ่มอัตราค่าคอมมิชชันของ Indexer สำหรับยุคการปักหลักทั้งหมด
ผู้มอบสิทธิ์ (Delegators) มีอิสระในการถอนโทเค็นเมื่อใดก็ได้ในช่วงยุคการปักหลัก แต่พวกเขาจะสูญเสียรางวัลใ ที่พวกเขาอาจได้รับในช่วงยุคนั้น
Incentives for Query Performance
เพื่อจะทำให้เครือข่ายมีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน เครือข่าย SubQuery จะต้องดำเนินการในระดับสูงสุด นั่นคือเหตุผลที่กระบวนการค้นพบ Indexer จะรวมถึงข้อมูลประสิทธิภาพ (เวลาแฝงและเวลาทำงาน) สำหรับ Indexer ทั้งหมด และเราจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ Consumer รายงานเกี่ยวกับความเร็วและประสิทธิภาพการสืบค้นบ่อยที่สุด
อาจมีการจัดหาเครื่องมือเพื่อจำกัดความสามารถของ Indexer สำหรับภูมิภาคทางภูมิศาสตร์บางแห่ง เพื่อให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่การให้บริการที่ดีที่สุดแก่ภูมิภาคนั้น ดึงดูดคำขอมากที่สุด และอาจเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดสำหรับการทำงานของพวกเขา
ซึ่งจะช่วยให้ตัวสร้างดัชนีที่ใหญ่ขึ้นและเติบโตเต็มที่และสามารถเรียกใช้โครงสร้างพื้นฐานเฉพาะสถานที่ได้ทั่วโลก
SubQuery Foundation
SubQuery Network จะได้รับการจัดการโดย SubQuery Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่สร้างขึ้นเพื่อให้บริการ จัดการ และพัฒนา SubQuery Network โดยเฉพาะ และให้การสนับสนุนผู้ใช้และนักพัฒนาในการเข้าร่วม
มูลนิธิ SubQuery จะมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้:
การพัฒนาและอัปเดต SubQuery Network
บริหารจัดการและแจกจ่ายทรัพย์สินจากคลังมูลนิธิ
การจัดการโปรแกรม SubQuery Grants เพื่อกระตุ้นระบบนิเวศและการพัฒนาเครือข่าย
การพัฒนาระบบนิเวศ SubQuery ของพันธมิตรและชุมชนผู้ใช้
ขับเคลื่อนโปรแกรมการศึกษาและเอกสารประกอบการ
การกระจายอำนาจการควบคุมบน SubQuery Network
มีการวางแผนว่า SubQuery Foundation จะรับผิดชอบต่อ SubQuery Council ซึ่งจะดูแลการตัดสินใจในด้านการกำกับดูแล รวมถึงตัวแทนที่สำคัญจากทีม SubQuery หลัก ตลอดจนพันธมิตรและที่ปรึกษาที่สำคัญอื่นๆ
Tokenomics
โปรดทราบว่า SQT Token Allocation Plan และ Token Vesting Schedule ยังคงมีการเปลี่ยนแปลง
การกระจายโทเค็น
ในช่วงแรก SubQuery จะสร้างโทเค็นขึ้นมา 10 พันล้าน SQT ซึ่งจะได้รับการจัดสรรในลักษณะต่อไปนี้ จะมีอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากโทเค็นที่สร้างขึ้นใหม่และส่งตรงไปยังพูลโทเค็นที่เหมือนคลัง ซึ่งจะถูกจัดการโดย SubQuery Foundation

SubQuery ได้เน้นไปที่การสร้างมูลค่าในชุมชน ด้วยการให้โทเค็นจำนวนที่เยอะที่สุด (41%) ถูกแบ่งให้กับชุมชนและมูลนิธิ SubQuery
มูลนิธิซึ่งคาดว่าจะถูกจัดตั้งขึ้นในต้นปี พ.ศ. 2565 ซึ่งจะมาพร้อมกับการดูแลและสร้างการเติบโตของระบบนิเวศในอนาคต และการเป็นเจ้าของเครือข่าย SubQuery จะอยู่ภายใต้ SubQuery Foundation ในขั้นต้น
การจัดสรรนี้ยังรวมถึงการพิจารณาการลงทุนในอนาคตเพื่อการพัฒนาและการดำเนินงานของเครือข่าย และตัวขับเคลื่อนการเติบโตของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
โดยจะรวมถึงเครื่องมือในการจัดการแบบต่างๆ เช่น เงินช่วยเหลือและสิ่งจูงใจ/กิจกรรมของระบบนิเวศ ตลอดจนกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งรวมถึงเงินสนับสนุนเมื่อเกิดข้อผิดพลาดและสิ่งจูงใจจากเครือข่ายหลัก
นักลงทุนที่เข้ามาในช่วงเริ่มต้นในรอบ Seed และ Series A จะได้รับการจัดสรรรวมกัน 27% SubQuery รู้สึกขอบคุณสำหรับวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในขั้นต้นของพวกเขาในการสร้างระยะเริ่มต้นของ SubQuery ต่อจากขั้นตอนนี้ จะเป็นการสนับสนุนจากนักลงทุน Series A ซึ่งทำให้โครงการสามารถเร่งไปสู่ระดับต่อไปได้
สำหรับการขายสาธารณะคิดเป็น 12% ของอุปทานโทเค็นและจะมีการจัดสรรอย่างน้อยสองรอบ
รายละเอียดและช่วงเวลาที่แน่นอนของรอบเหล่านี้จะถูกประกาศในภายหลัง อย่างไรก็ตาม การจัดสรรจะมีให้สำหรับสมาชิกชุมชนคนสำคัญ (เช่น เอกอัครราชทูต สปาร์ตัน) และผู้เข้าร่วมเครือข่าย (เช่น ผู้เข้าร่วมเครือข่ายสำหรับการทดสอบและลูกค้าที่อ้างอิงได้) แต่ละประเภทจะมีการจัดสรรขั้นต่ำและสูงสุดที่แตกต่างกัน
สุดท้ายนี้ ทีม SubQuery และ Launch Partners ได้รับการจัดสรร 20% ของการจัดหาโทเค็นเพื่อแลกกับการทำงานอย่างหนักหน่วงและการสนับสนุนในการสร้างและส่งเสริมโครงการตั้งแต่เริ่มแรก
Token Vesting Schedule
การจัดสรรโทเค็นจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหากโครงการไม่มีความเข้าใจถึงการกระจายโทเค็นให้กับผู้ถือที่เกี่ยวข้อง
กราฟด้านล่างแสดงให้เห็นถึงการกระจายโทเค็น SQT แก่ผู้เข้าร่วมแต่ละส่วนในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้มีการหมุนเวียนโทเค็นทั้งหมดที่เกิดขึ้น 5 ปี (60 เดือน) หลังจากเปิดตัว

จากกราฟการให้สิทธิ์สำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละคนถูกออกแบบเพื่อสร้างมูลค่าในระยะยาวสำหรับโครงการและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือโทเค็น
สิ่งสำคัญที่สุดคือโทเค็นของทีมหลักจะถูกจำกัดสิทธิในการขายเป็นระยะเวลา 24 เดือน แต่สำหรับผู้เข้าร่วมการขายสาธารณะบางรายสามารถใช้ยูทิลิตี้ของโทเค็นของตนได้อย่างอิสระเมื่อเปิดตัว
ในส่วนของมูลนิธิและชุมชน 30% ของเหรียญที่ถูกจัดสรร จะไม่ถูกจำกัดสิทธิในการขาย เพื่อให้พวกเขาสามารถนำมาจ่ายให้กับโครงการที่เปิดตัวและสนับสนุนเครือข่ายหลักในช่วงเริ่มต้น โดยส่วนที่เหลือของการจัดสรรจะค่อยๆ ถูกกระจายในระยะเวลา 5 ปี





Comments